สรุปศุกร์เสวนาครั้งที่ 10สรุปศุกร์เสวนาครั้งที่ 10
Category: Friday Cafe, News
สรุปศุกร์เสวนาครั้งที่ 10
อิสลามและภาวะสมัยใหม่ ในมุมมองนักการศาสนา
เปิดประเด็นโดย มะบาหารี อาแซ (ตะเยาห์ซู)
ท่านศาสดามุฮัมหมัดได้กล่าวว่า เมื่อครั้งศาสนาอิสลามเข้ามาแรกๆ นั้นไม่มีใครต้องการ เพราะหากมีการพูดถึงอิสลาม คนจะคิดว่าอิสลามเป็นสิ่งที่ล้าสมัย โบราณ ความเจริญของอิสลามนั้นเริ่มต้นด้วย “อิกติซอม”(ภาษาอาหรับ) หมายถึง “ประสานมือกัน” ไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไร ภาษาอะไรก็ตาม ซึ่งทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกัน มนุษย์นี้มีสติปัญญาสามารถที่จะแยกแยะชั่ว-ดีได้ เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์นั้นมีความเจริญรุ่งเรือง
ความเจริญต้องมาจากความร่วมมือและต้องเริ่มต้นที่ตัวเราก่อน ด้วยการ ไม่แบ่งแยกศาสนา อย่าดูถูกคนชาติอื่น การไม่แบ่งแยกนี้จะนำอิสลามให้รุ่งเรืองได้ ทุกวันนี้อิสลามไม่มีใครต้องการแม้แต่ตัวเราเอง ซึ่งสังเกตได้จากเมื่อเราเห็นผู้หญิงมุสลิมแต่งกายอวดรูปร่าง เราก็มักจะชมว่าแต่งตัวอย่างนี้แล้วดูสวยขึ้นทั้งๆที่อิสลามห้ามผู้หญิงแต่ตัวล่อแหลมต่อการละเมิดทางเพศ ในอนาคตอิสลามจะไม่มีใครต้องการ ซึ่งเราจะต้องยืนหยัดความเป็นอิสลามเอาไว้ อิสลามนั้นมั่นคงอยู่ภายในใจคือสาระสำคัญของอิสลาม แม้ว่าภายนอกจะดูไม่มีราคาก็ตาม เพราะว่าอิสลามไม่ได้ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกสรุปศุกร์เสวนาครั้งที่ 10
อิสลามและภาวะสมัยใหม่ ในมุมมองนักการศาสนา
เปิดประเด็นโดย มะบาหารี อาแซ (ตะเยาห์ซู)
ท่านศาสดามุฮัมหมัดได้กล่าวว่า เมื่อครั้งศาสนาอิสลามเข้ามาแรกๆ นั้นไม่มีใครต้องการ เพราะหากมีการพูดถึงอิสลาม คนจะคิดว่าอิสลามเป็นสิ่งที่ล้าสมัย โบราณ ความเจริญของอิสลามนั้นเริ่มต้นด้วย “อิกติซอม”(ภาษาอาหรับ) หมายถึง “ประสานมือกัน” ไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไร ภาษาอะไรก็ตาม ซึ่งทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกัน มนุษย์นี้มีสติปัญญาสามารถที่จะแยกแยะชั่ว-ดีได้ เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์นั้นมีความเจริญรุ่งเรือง
ความเจริญต้องมาจากความร่วมมือและต้องเริ่มต้นที่ตัวเราก่อน ด้วยการ ไม่แบ่งแยกศาสนา อย่าดูถูกคนชาติอื่น การไม่แบ่งแยกนี้จะนำอิสลามให้รุ่งเรืองได้ ทุกวันนี้อิสลามไม่มีใครต้องการแม้แต่ตัวเราเอง ซึ่งสังเกตได้จากเมื่อเราเห็นผู้หญิงมุสลิมแต่งกายอวดรูปร่าง เราก็มักจะชมว่าแต่งตัวอย่างนี้แล้วดูสวยขึ้นทั้งๆที่อิสลามห้ามผู้หญิงแต่ตัวล่อแหลมต่อการละเมิดทางเพศ ในอนาคตอิสลามจะไม่มีใครต้องการ ซึ่งเราจะต้องยืนหยัดความเป็นอิสลามเอาไว้ อิสลามนั้นมั่นคงอยู่ภายในใจคือสาระสำคัญของอิสลาม แม้ว่าภายนอกจะดูไม่มีราคาก็ตาม เพราะว่าอิสลามไม่ได้ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก
ทุกวันนี้โลกของเรามีเทคโนโลยีสมัยใหม่มากมาย เราะจะปฏิเสธเทคโนโลยีไม่ได้ แม้ว่า เทคโนโลยีทำให้เราเข้าถึงอบายมุขต่างๆได้ง่ายก็ตาม แต่เทคโนโลยีจะเป็นโทษหรือเป็นประโยชน์นั้นขึ้นอยู่กับผู้ที่ใช้มันว่าจะใช้ในหนทางใด เช่นโทรศัพท์ราคาแพงๆที่สามารถถ่ายวิดีโอได้ บางคนใช้เพื่อการศึกษา บางคนใช้เพื่อดูคลิปลามก ซึ่งเราจะไปปฏิเสธที่ตัวโทรศัพท์นั้นไม่ได้แต่ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนใช้เทคโนโลยี
ฉะนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันต้องเริ่มจากครอบครัวที่เป็นสถานศึกษาอันดับแรก และโรงเรียนเป็นอันดับที่สอง จะต้องปลูกฝังให้เด็กๆเหล่านี้ตระหนักถึงความเป็นมุสลิม เพราะเมื่อเด็กโตขึ้นจะต้องเผชิญกับสิ่งแวดล้อมที่ละเลยศีลธรรม จริยธรรม ของศาสนา ซึ่งสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวจะมีอิทธิพลสูงต่อการเปลี่ยนแปลงของคน
การใช้ชีวิตในสังคมที่มีความหลากหลายนั้นจะต้องยอมรับความหลากหลาย เราต้องเคารพศาสนา ภาษาของเขา และเขาก็ต้องเคารพศาสนาของเรา ซึ่งอิสลามไม่ได้ห้ามคบเพื่อนต่างศาสนา แต่การคบนั้นมันมีความละเอียดอ่อนที่ต้องศึกษาซึ่งกันและกัน เช่น เมื่อเราเจอผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นคนไทยเราก็สามารถไหว้และกล่าวสวัสดีได้เพื่อแสดงถึงความเคารพและให้เกียรติ และเมื่อคนไทยเจอคนที่อาวุโสกว่าก็ต้องทักทายตามธรรมเนียมของมุสลิมเพื่อให้เกียรติ ซึ่งเรื่องวิถีชีวิตของแต่ละศาสนาที่มีความแตกต่างกันนั้นบางทีก็มีขอบเขตของมัน อะไรที่เราทำได้และอะไรที่เราไม่สามารถทำได้ ซึ่งจะต้องมีการศึกษาซึ่งกันและกันเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดระหว่างศาสนา ที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งได้
ในทุกวันนี้เราไม่ค่อยเห็นโต๊ะครู นักวิชาการอิสลามเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาในบ้านเรา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคนเหล่านี้ไม่ออกมาแสดงทัศนะหรือร่วมกันหาทางออกให้กับพี่น้องของเรา
ทุกวันนี้โลกของเรามีเทคโนโลยีสมัยใหม่มากมาย เราะจะปฏิเสธเทคโนโลยีไม่ได้ แม้ว่า เทคโนโลยีทำให้เราเข้าถึงอบายมุขต่างๆได้ง่ายก็ตาม แต่เทคโนโลยีจะเป็นโทษหรือเป็นประโยชน์นั้นขึ้นอยู่กับผู้ที่ใช้มันว่าจะใช้ในหนทางใด เช่นโทรศัพท์ราคาแพงๆที่สามารถถ่ายวิดีโอได้ บางคนใช้เพื่อการศึกษา บางคนใช้เพื่อดูคลิปลามก ซึ่งเราจะไปปฏิเสธที่ตัวโทรศัพท์นั้นไม่ได้แต่ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนใช้เทคโนโลยี
ฉะนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันต้องเริ่มจากครอบครัวที่เป็นสถานศึกษาอันดับแรก และโรงเรียนเป็นอันดับที่สอง จะต้องปลูกฝังให้เด็กๆเหล่านี้ตระหนักถึงความเป็นมุสลิม เพราะเมื่อเด็กโตขึ้นจะต้องเผชิญกับสิ่งแวดล้อมที่ละเลยศีลธรรม จริยธรรม ของศาสนา ซึ่งสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวจะมีอิทธิพลสูงต่อการเปลี่ยนแปลงของคน
การใช้ชีวิตในสังคมที่มีความหลากหลายนั้นจะต้องยอมรับความหลากหลาย เราต้องเคารพศาสนา ภาษาของเขา และเขาก็ต้องเคารพศาสนาของเรา ซึ่งอิสลามไม่ได้ห้ามคบเพื่อนต่างศาสนา แต่การคบนั้นมันมีความละเอียดอ่อนที่ต้องศึกษาซึ่งกันและกัน เช่น เมื่อเราเจอผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นคนไทยเราก็สามารถไหว้และกล่าวสวัสดีได้เพื่อแสดงถึงความเคารพและให้เกียรติ และเมื่อคนไทยเจอคนที่อาวุโสกว่าก็ต้องทักทายตามธรรมเนียมของมุสลิมเพื่อให้เกียรติ ซึ่งเรื่องวิถีชีวิตของแต่ละศาสนาที่มีความแตกต่างกันนั้นบางทีก็มีขอบเขตของมัน อะไรที่เราทำได้และอะไรที่เราไม่สามารถทำได้ ซึ่งจะต้องมีการศึกษาซึ่งกันและกันเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดระหว่างศาสนา ที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งได้
ในทุกวันนี้เราไม่ค่อยเห็นโต๊ะครู นักวิชาการอิสลามเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาในบ้านเรา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคนเหล่านี้ไม่ออกมาแสดงทัศนะหรือร่วมกันหาทางออกให้กับพี่น้องของเรา